ไขมัน ภาษาอังกฤษ: ความหมายและสาระสำคัญในการเรียนรู้

อาหาร​หลัก​5​หมู่​(หมู่​ที่5ไขมัน)​ภาษาอังกฤษ​ง่าย​ๆ​สไตล์​ศน.วี​ระ​วรรณ​

อาหาร​หลัก​5​หมู่​(หมู่​ที่5ไขมัน)​ภาษาอังกฤษ​ง่าย​ๆ​สไตล์​ศน.วี​ระ​วรรณ​

Keywords searched by users: ไขมัน ภาษาอังกฤษ: ความหมายและสาระสำคัญในการเรียนรู้ ไขมันในร่างกาย ภาษาอังกฤษ, โรคไขมัน ภาษาอังกฤษ, คอเลสเตอรอล ภาษาอังกฤษ, ไขมัน ภาษาจีน, ก้อนไขมัน ภาษาอังกฤษ, อาหารไขมัน ภาษาอังกฤษ, ไขมันสูง ภาษาอังกฤษ, ลดไขมัน ภาษาอังกฤษ

ความหมายของไขมันในภาษาอังกฤษ

ความหมายของไขมันในภาษาอังกฤษ

ไขมัน (fat) เป็นคำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่ใช้ในบริบททางวิทยาศาสตร์และการแพทย์เพื่ออธิบายสารประกอบอินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งสามารถพบได้ทั้งในสัตว์และพืช [1]. ไขมันมีลักษณะเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีความหนืดและหนา โดยมักจะเป็นสารประกอบหลักในการสะสมพลังงานในร่างกายของสัตว์และมนุษย์ [1].

ความหมายของไขมันในภาษาอังกฤษยังมีความหมายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและโรคต่าง ๆ ดังนี้:

  1. ไขมันที่ตกค้างในร่างกาย (Body fat): เป็นไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากการบริโภคพลังงานเกินไป หรือการรับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง [1].

  2. ไขมันในเลือด (Blood fat): เป็นไขมันที่พบในเลือด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนย่อยได้สองประเภทคือไตรกลีเซอไรด์ (triglycerides) และคอเลสเตอรอล (cholesterol) [1].

  3. ไขมันส่วนเกิน (Excess fat): เป็นไขมันที่มีปริมาณเกินความจำเป็นในร่างกาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุลย์ และขาดการออกกำลังกาย [1].

การรับประทานไขมันในปริมาณที่เหมาะสมสำคัญต่อสุขภาพของร่างกาย เนื่องจากไขมันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญและมีบทบาทในการสร้างสารประกอบอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน และสารประกอบของเซลล์ [1]. อย่างไรก็ตาม การรับประทานไขมันในปริมาณที่เกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เชความหมายของไขมันในภาษาอังกฤษ

ไขมัน (fat) เป็นคำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่ใช้ในบริบทต่าง ๆ เพื่ออธิบายสารประกอบอินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งสามารถพบได้ทั้งในสัตว์และพืช [1]. ไขมันมีหลายประเภทและมีหน้าที่หลากหลายในร่างกายของเรา [1]. ดังนั้นเรามาดูความหมายและหน้าที่ของไขมันในภาษาอังกฤษกันเถอะครับ.

ความหมายของไขมันในภาษาอังกฤษ

  1. ไขมัน (fat): ในคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไขมันหมายถึงสารประกอบอินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งสามารถพบได้ทั้งในสัตว์และพืช [1].

หน้าที่ของไขมันในร่างกาย

  1. การเก็บสะสมพลังงาน: ไขมันเป็นแหล่งพลังงานสำหรับร่างกาย โดยเมื่อเราทานอาหารมากเกินไป ร่างกายจะเก็บไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานในอนาคต [1].

  2. การสร้างฮอร์โมน: ไขมันเป็นสารสำคัญในการสร้างฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเพศ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต [1].

  3. การปกป้องอวัยวะภายใน: ไขมันมีบทบาทในการปกป้องอวัยวะภายใน เช่น ไขมันที่อยู่รอบไต จะช่วยปกป้องไตจากการกระทบกระเทือน [1].

  4. การช่วยในการดูแลผิวพรรณ: ไขมันมีบทบาทในการรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิวพรรณ และช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื่นของผิว [1].


Learn more:

  1. ไขมัน แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์
  2. ไขมัน แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์
  3. ไขมัน คืออะไร แปลว่าอะไร ตัวอย่างประโยค จากพจนานุกรมแปล ไทย-อังกฤษ LEXiTRON

สารประกอบและคุณสมบัติของไขมัน

สารประกอบและคุณสมบัติของไขมัน

ไขมันเป็นสารประกอบที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกายของเรา มันเป็นแหล่งพลังงานสูงและมีหน้าที่สำคัญในการสร้างสารอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น กรดไขมันจำเป็น กรดไลโนเลิก และวิตามินบางชนิด [1].

คุณสมบัติของไขมัน:

  1. ไขมันเป็นแหล่งพลังงานสูง: ไขมันมีปริมาณพลังงานสูงกว่าปริมาณพลังงานในโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต 1กรัมของไขมันมีปริมาณพลังงานประมาณ 9 กิโลแคลอรี่ [1].
  2. ไขมันช่วยในการดูดซึมวิตามินได้ดีขึ้น: วิตามินบางชนิดเป็นไขมันละลายได้ ดังนั้นการบริโภคไขมันพอสมควรจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเหล่านี้ได้ดีขึ้น [1].
  3. ไขมันเป็นส่วนประกอบของเซลล์: ไขมันเป็นส่วนประกอบหลักของเซลล์ในร่างกาย เช่น เซลล์ประสาท และเซลล์กล้ามเนื้อ [1].
  4. ไขมันช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง: ไขมันช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง และป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น [1].
  5. ไขมันเป็นสารตั้งต้นในการผลิต prostaglandin: prostaglandin เป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกาย เช่น การควบคุมการเผาผลาญคอเลสเตอรอล และการควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน [1].

Learn more:

  1. ไขมัน – วิกิพีเดีย
  2. Untitled Document
  3. ไขมัน – PCC Group Product Portal

ประเภทของไขมันในภาษาอังกฤษ

ประเภทของไขมันในภาษาอังกฤษ (Types of Fats in English)

ไขมันเป็นสารประกอบที่สำคัญในอาหารของเรา แต่ไม่ใช่ทุกประเภทของไขมันเป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพของร่างกาย เราควรรู้จักประเภทของไขมันที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะเคมีและผลกระทบต่อร่างกายได้ดังนี้:

  1. ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fats)

    • ไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันที่มีโครงสร้างเคมีที่เต็มเปี่ยมด้วยกรดไขมันต่างๆ และไม่มีการเชื่อมโยงคู่ของโมเลกุลไขมัน
    • อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงรวมถึงเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อหมูที่มีไขมันส่วนสูง น้ำมันปลา เนยเหลว และชั้นไขมันวาฬ [1]
  2. ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fats)

    • ไขมันไม่อิ่มตัวเป็นไขมันที่มีโครงสร้างเคมีที่มีการเชื่อมโยงคู่ของโมเลกุลไขมัน
    • ไขมันไม่อิ่มตัวแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่:
      • ไขมันซิส (Monounsaturated Fats): ไขมันซิสคือไขมันที่มีโครงสร้างเคมีที่มีการเชื่อมโยงคู่ของโมเลกุลไขมันเพียงคู่เดียว อาหารที่มีไขมันซิสสูงรวมถึงน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันถั่วลิสง [1]
      • ไขมันพอลิอันส์ (Polyunsaturated Fats): ไขมันพอลิอันส์คือไขมันที่มีโครงสร้างเคมีที่มีการเชื่อมโยงคู่ของโมเลกุลไขมันมากกว่าคู่เดียว อาหารที่มีไขมันพอลิอันส์สูงรวมถึงน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันงา และน้ำมันมะเขือเทศ [1]
  3. ไขมันทรานส์ (Trans Fats)

    • ไขมันทรานส์เป็นไขมันที่เกิดจากกระบวนการไประเภทของไขมันในภาษาอังกฤษ (Types of Fats in English)

ไขมันเป็นสารประกอบที่สำคัญในอาหารของเรา แต่ไม่ใช่ทุกประเภทของไขมันเป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพของร่างกาย เราควรรู้จักประเภทของไขมันที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะสามารถเลือกบริโภคไขมันที่เหมาะสมและมีประโยชน์ได้อย่างถูกต้อง

นี่คือประเภทของไขมันที่สำคัญที่ควรรู้ในภาษาอังกฤษ:

  1. ไขมันอิ่มตัว (Saturated fats): ไขมันอิ่มตัวเป็นประเภทของไขมันที่มีโครงสร้างที่เต็มเปี่ยมด้วยอะตอมไฮโดรเจน และไม่มีการเชื่อมโยงคู่ของโมเลกุลไขมัน ไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่พบในอาหารที่มาจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง น้ำมันปลา น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม [1]

  2. ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fats): ไขมันไม่อิ่มตัวเป็นประเภทของไขมันที่มีโครงสร้างที่มีการเชื่อมโยงคู่ของโมเลกุลไขมัน ไขมันไม่อิ่มตัวสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ ไขมันไม่อิ่มตัวแบบไม่เคลื่อนที่ (Monounsaturated fats) และ ไขมันไม่อิ่มตัวแบบหลายไม่เคลื่อนที่ (Polyunsaturated fats) [1]

    • ไขมันไม่อิ่มตัวแบบไม่เคลื่อนที่ (Monounsaturated fats): ไขมันไม่อิ่มตัวแบบไม่เคลื่อนที่พบได้ในอาหารที่มาจากพืช เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมันสำปะหลัง และน้ำมันมันอบเช่น น้ำมันมันอบข้าวโพด [1]

    • ไขมันไม่อิ่มตัวแบบหลายไม่เคลื่อนที่ (Polyunsaturated fats): ไขมันไม่อิ่มตัวแบบหลายไม่เคลื่อนที่สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ ไขมันไม่อิ่มตัวแบบอิ่มตัว (Omega-3 fatty acids


Learn more:

  1. ไขมัน – วิกิพีเดีย

ผลกระทบของไขมันต่อสุขภาพ

ผลกระทบของไขมันต่อสุขภาพ

ไขมันเป็นสารอาหารที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของร่างกายเป็นอย่างมาก การรับประทานไขมันในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดี แต่การรับประทานไขมันเกินไปหรือรับประทานไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคและปัญหาสุขภาพต่างๆได้ ดังนั้น เราควรรับประทานไขมันให้เหมาะสมและเลือกไขมันที่ดีต่อสุขภาพอย่างถูกต้อง

ประโยชน์ของไขมันต่อสุขภาพ

  • ไขมันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในร่างกาย [1]
  • ช่วยในการดูดซึมวิตามินได้อย่างมีประสิทธิภาพ [1]
  • ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและสามารถทำงานได้ตามปกติ [1]
  • เป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนและช่วยในกระบวนการเติบโตของร่างกาย [1]
  • ช่วยในการทำงานของสมองและระบบประสาท [1]

ชนิดของไขมัน

  1. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fat)

    • ไขมันชนิดนี้เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด [1]
    • ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย [1]
    • ช่วยรักษาระดับอินซูลินและน้ำตาลในเลือด [1]
    • อาจช่วยลดน้ำหนักได้ [1]
    • อาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว: น้ำมันมะกอก, น้ำมันคาโนล่า, น้ำมันเมล็ดทานตะวัน, อะโวคาโด เป็นต้น [1]
  2. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated fat)

    • ไขมันชนิดนี้เป็นไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง [1]
    • มีผลกระทบของไขมันต่อสุขภาพ

ไขมันเป็นสารอาหารที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของร่างกายเป็นอย่างมาก การรับประทานไขมันในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดี แต่การรับประทานไขมันเกินไปหรือรับประทานไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ดังนั้นควรรับประทานไขมันให้เหมาะสมและคำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน

ประโยชน์ของไขมันต่อสุขภาพ

  • ไขมันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในร่างกาย [1]
  • ช่วยในการดูดซึมวิตามินบางชนิด เช่นวิตามินอีและวิตามินเอ [1]
  • ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและรักษาอุณหภูมิตัวในระดับที่เหมาะสม [1]
  • เป็นส่วนประกอบของเซลล์และสารประกอบสำคัญอื่นๆในร่างกาย [1]
  • ช่วยในการสร้างฮอร์โมนและสารเคมีที่จำเป็นต่อร่างกาย [1]

ชนิดของไขมัน

  1. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fat)

    • ไขมันชนิดนี้เป็นไขมันที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย [1]
    • ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและบางประเภทของมะเร็ง [1]
    • พบได้ในอาหารเช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า น้ำมันเมล็ดทานตะวัน และผลไม้อย่างอะโวคาโด [1]
  2. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated fat)

    • ไขมันชนิดนี้เป็นไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย [1]
    • ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง [1]
    • พบได้ในอาหารเช่น ปลาทะเลอย่างปลาแซลมอน ปลาซาดีน ปลาทูน่า ถั่วเปลือกแข็งอย่า

Learn more:

  1. ไขมัน ประโยชน์และอันตรายที่ควรรู้ – พบแพทย์
  2. ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด | โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
  3. KNOWLEDGE | BHH

วิธีการควบคุมระดับไขมันในร่างกาย

วิธีการควบคุมระดับไขมันในร่างกาย

การควบคุมระดับไขมันในร่างกายเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับไขมันสูง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ดังนั้น เราควรมีการดูแลระดับไขมันในร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนี้:

  1. รับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นประโยชน์:

    • ไขมันไม่อิ่มตัวสูง (unsaturated fats) เช่น น้ำมันมะกอก, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะเขือเทศ, น้ำมันถั่วเหลือง, และน้ำมันมะกอกอินทรีย์
    • ปลาที่มีไขมันอิ่มตัวสูง (omega-3 fatty acids) เช่น ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาซาร์ดีน, และปลาปิรานา
    • ผลไม้และผักที่มีใยอาหารสูง เช่น แอปเปิ้ล, ส้ม, กล้วย, สาหร่าย, และผักบุ้ง
  2. ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันไม่ดี:

    • ไขมันอิ่มตัวสูง (saturated fats) เช่น หมู, เนื้อวัว, ไก่, ไข่เจียว, นมเต็มไขมัน, และเนย
    • อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง, เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง, และอาหารที่ใช้น้ำมันมาก เช่น เบคอน, ไส้กรอก, แฮม, และอาหารที่ทอด
  3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ:

    • ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว, วิ่ง, ว่ายน้ำ, หรือเล่นกีฬาต่างๆ
    • เลือกกิจกรรมที่ชอบและเหมาะสมกับร่างกาย เพื่อให้สามารถรักษาการออกกำลังกายได้ในระยะยาว
  4. ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต:

    • ลดการบริโภคอาวิธีการควบคุมระดับไขมันในร่างกาย

การควบคุมระดับไขมันในร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังช่วยรักษาน้ำหนักที่เหมาะสมและส่งเสริมสุขภาพที่ดีอีกด้วย ดังนั้นเราควรปฏิบัติตามแนวทางการควบคุมระดับไขมันในร่างกายต่อไปนี้:

  1. รับประทานอาหารที่มีไขมันเหมาะสม:

    • เลือกอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมันสำหรับทอด และอาหารที่มีไขมันที่ดีต่อร่างกาย เช่น ปลาที่มีไขมันอิ่มตัวไม่สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน
    • ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อหมู หมูกรอบ และเบคอน
    • เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เช่น ผักบุ้ง ผักกาดขาว และผลไม้สด เพื่อเพิ่มความอิ่มตัวและส่งเสริมกระบวนการย่อยไขมันในร่างกาย
  2. ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง:

    • ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมหวาน เค้ก ขนมปังขาว และอาหารที่มีน้ำตาลที่เพิ่มเติม เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลเพิ่ม เพื่อลดการสะสมไขมันในร่างกาย
  3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ:

    • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาต่างๆ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันในร่างกาย
  4. ลดการบริโภคแอล


Learn more:

  1. คุมอาหารแบบไหน ลดไขมันในเลือด
  2. ภาวะไขมันในเลือดสูง คุมอาหารแบบไหนช่วยได้ | รพ.นครธน | NAKORNTHON HOSPITAL
  3. กินอย่างไร ห่างไกล ไขมันในเลือดสูง – โรงพยาบาลศิครินทร์

ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า ไขมัน ในประโยคภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า ไขมัน ในประโยคภาษาอังกฤษ:

  1. I try to avoid foods high in saturated fats. [1]
    (ฉันพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง)

  2. Olive oil is a healthier alternative to butter and other solid fats. [1]
    (น้ำมันมะกอกเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเนยและไขมันแข็งอื่น ๆ)

  3. Regular exercise can help reduce body fat and improve overall health. [1]
    (การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยลดไขมันในร่างกายและปรับปรุงสุขภาพทั่วไป)

  4. Trans fats are known to increase the risk of heart disease. [1]
    (ไขมันทรานส์เป็นที่รู้จักว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ)

  5. A diet high in saturated fats can lead to weight gain and health problems. [1]
    (การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงอาจทำให้เกิดน้ำหนักเพิ่มและเกิดปัญหาด้านสุขภาพ)


Learn more:

  1. ไขมัน แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์
  2. fats แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์
  3. ไขมัน คืออะไร แปลว่าอะไร ตัวอย่างประโยค จากพจนานุกรมแปล ไทย-อังกฤษ LEXiTRON

Categories: สรุป 40 ไขมัน ภาษาอังกฤษ

อาหาร​หลัก​5​หมู่​(หมู่​ที่5ไขมัน)​ภาษาอังกฤษ​ง่าย​ๆ​สไตล์​ศน.วี​ระ​วรรณ​
อาหาร​หลัก​5​หมู่​(หมู่​ที่5ไขมัน)​ภาษาอังกฤษ​ง่าย​ๆ​สไตล์​ศน.วี​ระ​วรรณ​

fat. (n) ไขมัน, See also: ไข, Syn. grease, oil, lipid.

See more: blog https://kidsgarden.com.vn/category/video

ไขมันในร่างกาย ภาษาอังกฤษ

ไขมันในร่างกาย ภาษาอังกฤษ

ไขมันในร่างกายเป็นเรื่องที่สำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดี ภาษาอังกฤษเรียกไขมันว่า fat ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีหน้าที่หลากหลายในร่างกาย [1]. ในบทความนี้เราจะพูดถึงความหมายของไขมันในร่างกาย และสาระสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับไขมันในร่างกาย ภาษาอังกฤษ.

ความหมายของไขมัน (Fat)

ไขมันหมายถึงสารประกอบอินทรีย์ที่มีหน้าที่เก็บพลังงานในร่างกาย และมีหน้าที่สำคัญในการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย [1]. ไขมันสามารถพบได้ทั้งในสัตว์และพืช โดยมีลักษณะเป็นของเหลวในอุณหภูมิปรกติเรียกว่า น้ำมัน และเป็นของแข็งเรียกว่า ไข [1].

หน้าที่ของไขมันในร่างกาย

ไขมันในร่างกายมีหน้าที่สำคัญในการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนี้:

  1. เก็บพลังงาน: ไขมันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในร่างกาย 1กรัมของไขมันมีพลังงานประมาณ 9 กิโลแคลอรี่ [1].

  2. สารประกอบสำคัญของเซลล์: ไขมันเป็นส่วนประกอบของเซลล์ในร่างกาย และมีบทบาทในการสร้างสารประกอบอื่น ๆ เช่น ฮอร์โมน [1].

  3. ฉนวนความร้อน: ไขมันมีความสามารถในการฉนวนความร้อน ซึ่งช่วยลดการสูญเสียความร้อนของร่างกายในสภาวะอุณหภูมิต่ำ [1].

  4. ปกป้องอวัยวะภายใน: ไขมันเป็นสารประกอบที่ปกป้องอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ, ไต และตับ จากการกระทำของกระดูกและกล้ามเนื้อ [1].

ผลกระทบของไข# ไขมันในร่างกาย ภาษาอังกฤษ

ไขมันในร่างกายเป็นเรื่องที่สำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดี ภาษาอังกฤษเรียกไขมันว่า fat ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สำคัญที่อยู่ในร่างกายของเรา [1]. ไขมันมีหลายประเภทและมีหน้าที่หลากหลายในร่างกาย เช่น การเก็บพลังงาน การสร้างฮอร์โมน และการปกป้องอวัยวะภายใน [1].

ประเภทของไขมันในร่างกาย

  1. ไขมันส่วนเกิน (Excess fat): ไขมันส่วนเกินเกิดจากการรับประทานพลังงานเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือด [1].

  2. ไขมันส่วนตัว (Visceral fat): ไขมันส่วนตัวเป็นไขมันที่อยู่รอบอวัยวะภายในช่องท้อง ซึ่งเป็นไขมันที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน [1].

  3. ไขมันส่วนนอก (Subcutaneous fat): ไขมันส่วนนอกเป็นไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งมีหน้าที่เก็บพลังงานและปกป้องร่างกายจากการกระแทกของสิ่งแปลกปลอม [1].

ผลกระทบของไขมันในร่างกาย

การมีไขมันในร่างกายเกินความจำเป็นอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคและปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น [1]:

  • โรคอ้วน: ไขมันส่วนเกินอาจทำให้เกิดโรคอ้วนที่เป็นปัญหาสำคัญในสังคมในปัจจุบัน
  • โรคเบาหวาน: ไขมันส่วนเกินอาจทำให้เกิดโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • โรคหลอด

Learn more:

  1. ไขมัน แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์
  2. ไขมันในร่างกาย ในพจนานุกรม อังกฤษ – ไทย-อังกฤษ | Glosbe
  3. ไขมันในร่างกาย (khmaiัnnairangkai) แปลว่า – การแปลภาษาอังกฤษ

โรคไขมัน ภาษาอังกฤษ

โรคไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia) เป็นโรคที่มีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าค่าที่ถูกกำหนดขึ้น [1]. โรคนี้เกิดจากการสะสมของไขมันในเลือดที่เกินความจำเป็น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบ [1].

ในร่างกายของเรามีไขมันอยู่ 2 ชนิดหลัก คือคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) [1]. คอเลสเตอรอลแบ่งเป็น 2 ชนิด คือคอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือไขมันชนิดไม่ดี และคอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นสูง (HDL) หรือไขมันชนิดดี [1]. ไตรกลีเซอไรด์เป็นไขมันประเภทหนึ่งที่อาจสะสมที่ผนังหลอดเลือดได้เช่นกัน [1].

การวินิจฉัยโรคไขมันในเลือดสูงสามารถทำได้โดยการตรวจระดับไขมันในเลือด [1]. การตรวจนี้จะต้องงดอาหารทุกชนิดก่อนเพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ โดยควรงดอาหาร 8-10 ชั่วโมงก่อนการตรวจ [1].

ผู้ที่ควรเริ่มตรวจหาไขมันในเลือดสูงได้แก่ [1]:

  1. ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป หรือมากกว่า 35 ปีขึ้นไปสำหรับผู้ที่มีวิถีชีวิตแบบชุมชนเมือง
  2. ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนก่อนวัยอันควร หรือก่อนอายุ 40 ปี
  3. มีหลักฐานหรือสงสัยว่าโรคหลอดเลือดตีบ ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะใดก็ตาม
  4. มีความเสี่ยงอื่นต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น สูบบุหรี่ โรคความดันเลือดสูง และโรคเบาหวาน
  5. ประวัติพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นโรคหลอดเลือดตีบโดยญาติเพศชายเป็นกโรคไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia) เป็นโรคที่มีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าค่าที่ถูกกำหนดขึ้น [1]. โรคนี้เกิดจากการสะสมของไขมันในเลือด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบ [1].

ในร่างกายของเรามีไขมันอยู่ 2 ชนิดหลัก คือคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) [1]. คอเลสเตอรอลแบ่งเป็น 2 ชนิด คือคอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือไขมันชนิดไม่ดี และคอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นสูง (HDL) หรือไขมันชนิดดี [1]. ไตรกลีเซอไรด์เป็นไขมันประเภทหนึ่งที่อาจมีการสะสมที่ผนังหลอดเลือดได้เช่นกัน [1].

การวินิจฉัยโรคไขมันในเลือดสูงสามารถทำได้โดยการตรวจระดับไขมันในเลือด [1]. การตรวจนี้จะต้องงดอาหารทุกชนิดก่อนการตรวจเพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ โดยควรงดอาหาร 8-10 ชั่วโมงก่อนการตรวจ [1].

ผู้ที่ควรเริ่มตรวจหาไขมันในเลือดสูงได้แก่ [1]:

  • ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป หรือมากกว่า 35 ปีขึ้นไปสำหรับผู้ที่มีวิถีชีวิตแบบชุมชนเมือง
  • ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนก่อนวัยอันควร หรือก่อนอายุ 40 ปี
  • มีหลักฐานหรือสงสัยว่าโรคหลอดเลือดตีบ ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะใดก็ตาม
  • มีความเสี่ยงอื่นต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น สูบบุหรี่ โรคความดันเลือดสูง และโรคเบาหวาน
  • ประวัติพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นโรคหลอดเลือดตีบโดยญาติเพศชายเป็นก่อนอายุ 55 แล

Learn more:

  1. โรคไขมันในเลือดสูงกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด | โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต
  2. โรคไขมันโรคไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
  3. ReviewPrakan | โรคไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
5 แนวทางการปฏิบัติและการทานอาหารให้มีสุขภาพดี และความเชื่อผิดๆ  ตามพีระมิดอาหาร - Ryoii
5 แนวทางการปฏิบัติและการทานอาหารให้มีสุขภาพดี และความเชื่อผิดๆ ตามพีระมิดอาหาร – Ryoii
ไขมันทรานส์ สารอาหารตัวร้าย | คลับสุขภาพหุ่นสวย
ไขมันทรานส์ สารอาหารตัวร้าย | คลับสุขภาพหุ่นสวย
คำย่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรค - Nurse Soulciety
คำย่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรค – Nurse Soulciety
ดูดไขมันภาษาอังกฤษ แปลว่าอะไร มีวิธีอะไรบ้าง? - ลดกลิ่นตัว.Com บริการดูด ไขมัน ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
ดูดไขมันภาษาอังกฤษ แปลว่าอะไร มีวิธีอะไรบ้าง? – ลดกลิ่นตัว.Com บริการดูด ไขมัน ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก

See more here: kidsgarden.com.vn

สารบัญ

ความหมายของไขมันในภาษาอังกฤษ
สารประกอบและคุณสมบัติของไขมัน
ประเภทของไขมันในภาษาอังกฤษ
ผลกระทบของไขมันต่อสุขภาพ
วิธีการควบคุมระดับไขมันในร่างกาย
ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า ไขมัน ในประโยคภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *